Skating Wife เพราะนายคือทุกสิ่งทุกอย่าง...

[บทสัมภาษณ์] เมื่อ Javier Fernandez พูดถึง Yuzuru Hanyu

เนื่องจาก "วดีเด็ดอันลือลั่น" ที่ฮาเวียร์ได้กล่าวไว้ ทำให้ จขบ. ต้องไปเสาะหาบทความของ Reuters มาอ่านเชียวค่ะ แต่อ่านคนเดียวดูจะยังไม่สาแก่ใจเท่าไหร่ เลยลองแปลให้แฟนเกิร์ลชาวไทยได้ฟินจิกหมอนไปด้วยกัน 555 (แปลแบบลวกๆ ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้...)

สเก็ตลีลา- Fernandez ได้เคล็ด (ไม่) ลับจาก "ภรรยา"

ต้นฉบับ โดย PRITHA SARKAR เมื่อวันจันทร์ที่ 23 มีนาคม 2015

ความสำเร็จในการคว้าเหรียญทองโอลิมปิกของเพื่อนร่วมซ้อมอย่าง Yuzuru Hanyu ไม่ได้ทำให้ Javier Fernandez รู้สึกอิจฉาตาร้อนแต่อย่างใด หากแต่จะยิ่งเป็นแรงกระตุ้นให้อยากพัฒนาฝีมือเพื่อที่จะไล่ตาม บุคคลที่ตนยกให้เป็น "ภรรยา" ในกีฬาเสก็ต (!!!) ให้ทัน

นักเรียนทั้งสองของโค้ช Brian Orser มีกำหนดดวลฝีมือเพื่อชิงเหรียญทองกันในรายการ world championships ที่จะจัดขึ้นสัปดาห์นี้ (23 - 29 มีนาคม) ในเซี้ยงไฮ้ แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในสนาม Fernandez ก็ตั้งหน้าตั้งตารอที่จะไล่ตามฮะนิวให้ทัน หลังจากที่ต้องห่างกันไปถึง 3 เดือน เนื่องจากแชมป์โลก และแชมป์โอลิมปิกชาวญี่ปุ่นต้องกลับไปพักพื้นจากอาการบาดเจ็บและอาการป่วยที่เซนได ประเทศญี่ปุ่น
"กับ Yuzu เราเป็นทุกอย่าง เราเป็นทั้งเพื่อน เป็นเพื่อนร่วมทีม และบางครั้งก็ต้องกลายมาเป็นคู่แข่ง"  
นักสเก็ตชาวสเปนให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์สผ่านทางโทรศัพท์ จากสถานที่ฝึกซ้อมหลักในโตรอนโต ประเทศแคนาดา

สายตานี่มัน...
"เหมือนกับการมีภรรยา... ภรรยาของคุณก็เป็นทั้งเพื่อน เป็นทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ด้วย"
"ตอนอยู่ในสนามเราแข่งกันเอง แต่พอหลังจากแข่งจบลงเราก็กลับมาเป็นเพื่อนกันอีกครั้ง ทำงานด้วยกันอีกครั้ง" 
แม้ว่าสำหรับกีฬาชนิดอื่น การอยู่ภายใต้การดูแลของโค้ชคนเดียวกันจะทำให้นักกีฬาสร้างผลงานที่สุดยอดออกมาได้ --ดังเช่นในกีฬาเทนนิส  ที่  Jimmy Connors และ John McEnroe ต่างแก่งแย่งความสำเร็จกันตลอดมาในขณะที่มีโค้ชคนเดียวกัน-- Fernandez กลับรู้สึกว่าการแชร์แผนการเล่นต่างๆ กับคู่ต่อสู่ที่ยิ่งใหญ่ของเขานั้นมีข้อดีมากกว่าข้อเสีย
"เราไม่เคยรู้สึก (อิจฉา) เลยว่าการที่ Brian ใช้เวลาอยู่กับใครมากกว่ากันนั้นหมายความว่าเพราะอยากให้คนใดคนหนึ่งชนะ โค้ชไม่ใช่คนแบบนั้น"
Fernandez ผู้ซึ่งได้รับการชี้แนะจากแแชมป์โลกปี 1987 จนคว้าแชมป์ยุโรป 3 สมัยซ้อน กล่าว
"โค้ชเป็นกลางสุดๆ เขาไม่มีลูกรัก"
"Brian ดูแลนักกีฬาทุกคนอย่างเท่าเทียมกันไม่ว่าจะมีทักษะอยู่ในระดับไหนก็ตาม เขารักในงานที่ทำอยู่ และต้องการที่จะสร้างนักสเก็ตที่ดีที่สุด เท่าที่พวกเราจะสามารถเป็นได้"

โค้ชมือทอง

หากพูดถึงนักปั้นแชมป์ Brian Orser ก็เห็นจะเป็นโค้ชมือทอง

โค้ชชาวแคนาดารายนี้เคยพลาดรางวัลใหญ่ในชีวิตในสมัยที่ยังเป็นนักกีฬา เมื่อสอง Brian ต้องมา "แข่งกันเอง" ในกีฬาโอลิมปิกเมื่อปี 1988  (Calgary Games) โดยที่ Brian Orser ต้องพ่ายแพ้ต่อ Brian Boitano

อย่างไรก็ตาม ในฐานะโค้ช Orser ก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในการพา Kim Yuna เป็นแชมป์โอลิมปิคในปี 2010 และตามด้วย Yuzuru Hanyu เมื่อปีที่แล้วที่โซชิ

เมื่อครั้งเป็นโค้ชให้คิมยอนอา (โค้ชยังดูผอมเพรียวเชียว) credit: Emma
Fernandez รู้สึกว่าการได้มานั่งดู Orser ฝึก Hanyu อย่างใกล้ชิดแบบนี้เป็นสิ่งที่ช่วยให้เขากลายเป็นนักสเก็ตที่ดีขึ้นได้
"บางครั้ง เราก็เรียนรู้ได้จากแค่การดู"
Fernandez ผู้ซึ่งพลาดเหรียญทองแดงโอลิมปิกไปอย่างฉิวเฉียดเมื่อปีที่แล้ว กล่าว
"ผมมีโอกาสได้เห็นว่า Yuzuru ฝึกซ้อมอย่างไรกว่าจะได้เหรียญทอง... ได้รู้ว่าเขาต้องฝึกหนักแค่ไหน"
"มันทำให้ผมรู้ว่าการที่จะได้เหรียญทองโอลิมปิกมาน่ะยากแค่ไหน ทำให้ผมรู้ว่าเขาจะต้องมีความสามารถมากแค่ไหน และต้องใช้ความพยายามมากเพียงใดในแต่ละวัน สิ่งเหล่านั้นช่วยให้ผมเดินไปในทางที่ถูกต้องเพื่อที่จะไปยืนอยู่ในจุดเดียวกับกับเขา และทำให้ผมได้เหรียญทองในการแข่งขันรายการใหญ่ๆ"
"การมอง Yuzuru ทุกวันจะเปลี่ยนวิธีการฝึกซ้อมของคุณ... ในวันที่ไม่ท๊อปฟอร์ม หรือในวันที่ผมแค่เหนื่อย ผมก็จะนึกถึง Yuzuru และคิดว่าเขาเองก็เหนื่อยเหมือนกันแต่ยังสามารถแสดงโปรแกรมที่สุดยอดออกมาได้ในตอนซ้อม ซึ่งนั่นยิ่งทำให้เขาสเก็ตได้ดีขึ้นเรื่อยๆ"
เจ้าของเหรียญทองแดง World Championship สองสมัยกล่าวเสริม

นี่เห็นภาพแล้วอยากจะถามว่า "ซ้อมอัลลั๊ยยย?"
"ได้ฝึกซ้อมกับคนที่มีทักษะเท่าๆ กันทุกวันๆ สนุกว่าเยอะเลย ผมชอบนะ" 
 "ตักตวงจากนักสเก็ตรอบตัวคุณทีละนิด ตักตวงจากโค้ชของคุณทีละหน่อย แล้วเอาสิ่งที่ได้ไปใช้ในการแข่ง"
"ความทรงจำเหล่านั้นเป็นแรงผลักดันให้ผม"
ในขณะที่ Fernandez อาจไม่ได้ต้องการสิ่งใดมากไปกว่าการได้คว้าเหรียญทอง จากที่ที่เขาเรียกว่า "เมืองใหญ่ๆ ที่มีผู้คนมากมาย" มาไว้ในมือ แต่เขาเองก็เชื่อว่าเป้าหมายนั้นอาจต้องรอจนถึงปีหน้า 
"ผมอยากอยู่บนโพเดียมอีกครั้ง" 
นักกีฬาวัย 23 ปี ผู้มาจากเมืองมาดริด กล่าว
"ผมไม่อยากตั้งเป้าหมายในสิ่งที่ผมเอื้อมไม่ถึงหรอกนะ,, ผมไม่อยากพูดว่า /ผมจะเป็นแชมป์โลก/ แล้วลงเอยด้วยการได้ไปแข่ง แต่ไม่ได้เป็นแชมป์ สุดท้ายเป้าหมายที่ผมวางไว้ก็ไม่ประสบความสำเร็จ"
"ผมอยากได้เหรียญทองแดงเป็นอย่างน้อย เหมือนที่เคยได้มาแล้วสองครั้ง แต่ถึงยังไงผมก็จะพยายามเต็มที่เพื่อจะเป็นแชมป์โลก ผมฝึกหนักเพื่อให้ได้เหรียญทอง แต่เป้าหมายของผมคือการได้ยืนอยู่บนโพเดียม"

World Championships 2014 (เหรียญเงิน: Tatsuki Machida)

-------------------------------------------------------------------------------------------------

ไม่รู้ทำไม,, ทั้งที่พ่อหนุ่มสเปนคนนี้คือคนที่หมายมั่นปั้นมือจะโค่นแชมป์น้องนิว (และทำสำเร็จซะด้วย) แต่ จขบ. ก็ชิงชังฮาบิ (ชื่อที่นิวเรียก Javi **คนญี่ปุ่นออกเสียง v = บ**) ไม่ลงจริงๆ ค่ะ >_< คุณเขยแอบหยอดคำหวานถึงนิวตัลหล๊อดดดด... นี่ๆ,, ว่าแต่เอาเค้าไปเป็นภรรยาเนี่ย พาแม่มาสู่ขอเค้ายัง? วู๊!!! 
Previous
Next Post »

2 comments

Write comments
Unknown
AUTHOR
November 8, 2016 at 5:22 PM delete

เค้าอ่านแล้ว เป็นลมไปสามแสนรอบเลยค่ะ รู้สึกหน้ามืด ปนหมั่นไส้เจ้าตัวมาก มาภรรยงภรรยากอะไร 555 แต่ก็นะ เค้ามีเป้าหมายและให้สัมภาษณ์ดีมากเลย แต่ก็เกลียดไม่ลงหรอกค่ะ เวลาสองคนนี้อยู่ด้วยกันแล้วน่ารักมากเลย ฮ่าๆๆ

ขอบคุณสำหรับคำแปลค่ะ ได้รู้เรื่องน้องเยอะขึ้นเลย (ใจสั่น)

Reply
avatar
Unknown
AUTHOR
August 17, 2021 at 5:32 PM delete

แฟนพันธ์แท้ เขาชอบอะไร..จะเป็นอะไร..เราก็ชื่นชมในความสามารถของเขา..สิ่งดีงามไม่ไปสร้างความเดือดร้อนให้ใคร .มีแต่คนชื่นชม..

Reply
avatar